Canon เปิดตัว RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye
Canon เปิดตัวเลนส์ RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye เลนส์ที่รองรับการถ่ายวิดี Virtual Reality (VR) ด้วยระบบ EOS VR System จะเป็นสิ่งที่เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับคุณ ด้วยภาพที่คมชัดเสมือนจริงแบบ 180◦ ที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย
รูปภาพจาก sanook.com
EOS VR System นวัตกรรมการถ่ายทำวิดีโอเสมือนจริง (VR) ที่โดดเด่นด้วยภาพพรีเมียมระดับ 8K ตอบรับความต้องการของตลาดการผลิตวิดีโอรูปแบบ VR ที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในสื่อบันเทิง การท่องเที่ยว และด้านการศึกษา ตลอดจนเพื่อถ่ายทอดภาพในจินตนาการของผู้บริโภคให้ออกมาในรูปแบบที่เสมือนจริงมากที่สุดและเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยได้พัฒนาเลนส์เพื่องาน VR คุณภาพสูงโดยเฉพาะอย่าง RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye เพื่อมาใช้งานร่วมกับกล้อง Mirrorless และซอฟต์แวร์ EOS VR Utility และ EOS VR Plugin ที่ออกแบบมาเพื่อให้การทำงานลื่นไหลและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยพร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
รูปภาพจาก sanook.com
คุณสมบัติหลักของเลนส์ RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye
1. บันทึกวิดีโอ VR แบบ 3D ได้ถึง 180◦ ด้วยเลนส์ L-lens คุณภาพสูง
- ใช้เลนส์ฟิชอาย 2 ชิ้น โดยเลนส์นี้สามารถจับบันทึกวิดีโอ VR แบบ 3D ได้ 180◦ โดยใช้หลักการเปลี่ยนตำแหน่งของวัตถุตามตำแหน่งที่ผู้มองเปลี่ยนไป (parallax) ระหว่างภาพด้านซ้ายและด้านขวา
- ฟุตเทจของ VR แบบ 180◦ จะมีระยะการมองเห็นครึ่งหนึ่งของฟุตเทจ 360◦ ซึ่งช่วยลดขนาดของไฟล์ลงและสร้างฟุตเทจที่มีความละเอียดสูง เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ และการสร้างภาพให้สมจริงที่สุด นอกจากนี้
ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีภาพตัวผู้ใช้งานรวมอยู่ในเฟรมภาพ - เป็นเลนส์ในตระกูล L (Luxury) ของแคนนอนที่ออกแบบและสร้างขึ้นตามมาตรฐานสูงสุดในทุกด้าน
ทั้งประสิทธิภาพ การใช้งาน และความทนทาน รวมถึงให้ภาพสว่าง และคุณภาพสูง ด้วยรูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.8 - ให้ภาพคุณภาพสูง ด้วยระบบ Short Back Focus ของเมาท์ RF ทำงานควบคู่ไปกับการจัดวางองค์ประกอบของชิ้นเลนส์ภายใน โดยเลนส์ฟิชอายแต่ละชิ้นจะมีการวางตำแหน่งชิ้นเลนส์ UD ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งการวางองค์ประกอบชิ้นเลนส์ภายในนี้ ยังถูกจัดวางโดยคำนึงถึงการช่วยปรับการหักเหของแสงให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ Parallax Effect ที่เป็นธรรมชาติ ที่ระยะภาพ 60 มม.
- ชิ้นเลนส์ทั้งซ้ายและขวา ติดตั้งไดอะแฟรมแม่เหล็กไฟฟ้า (EMD: Electro-magnetic Diaphragm) เพื่อใช้ในการควบคุมเส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสงด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
- ตัวยึดฟิลเตอร์เจลาติน เพื่อให้สามารถใส่ฟิลเตอร์ ND ได้ ทำให้สามารถควบคุมความสว่างของภาพได้แม้ในระหว่างการถ่ายภาพกลางแจ้งตอนกลางวันและในสถานการณ์อื่นๆที่มีคอนทราสต์สูง ซึ่งอาจทำให้ต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงกว่าที่ต้องการ จึงมั่นใจได้ว่าการถ่ายวิดีโอนั้นจะเป็นไปอย่างราบรื่น
- การซีลป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ บนเมาท์และวงแหวนโฟกัส
- ใช้การเคลือบชิ้นเลนส์แบบ SWC (Subwavelength Structure Coating) ซึ่งเป็นสารเคลือบชนิดพิเศษ มีโครงสร้างเป็นรูปลิ่มจำนวนมากขนาดนาโนซึ่งเล็กกว่าความยาวคลื่นของแสงที่มองเห็น โดยจัดเรียงไว้บนส่วนเว้าของชิ้นเลนส์ส่วนหน้าสุดเพื่อควบคุมการสะท้อนแสงภายใน ซึ่งจะช่วยลดการเกิดแสงหลอกที่เป็นแสงสะท้อนในภาพ นอกจากนี้เลนส์ที่ใช้สำหรับการถ่ายวิดีโอ VR มักจะมีมุมตกกระทบที่ใหญ่กว่า ซึ่งการเคลือบผิวแบบนี้จะช่วยให้สามารถถ่ายภาพในสภาวะย้อนแสงได้ง่ายขึ้น
รูปภาพจาก sanook.com
2. ถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงด้วยกล้องมิเรอร์เลส EOS R5 ที่รองรับความละเอียด 8K
- การใช้เลนส์รุ่นนี้ควบคู่กับกล้อง EOS R5 ทำให้ได้ภาพฟุตเทจวิดีโอ VR แบบ 180◦ ที่มีความละเอียดสูง 8K ให้ความรู้สึกเพลิดเพลิน สมจริงในการรับชมยิ่งขึ้น
- ด้วยรูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.8 ของเลนส์ ร่วมกับเซนเซอร์ CMOS ความไวสูง พร้อมความสามารถในการประมวลผลสัญญาณรบกวนอันทรงพลังของชิปประมวลผลภาพ DIGIC X ในกล้อง EOS R5 ทำให้ได้ฟุตเทจคุณภาพสูงแม้ถ่ายทำในสถานที่ที่มีแสงน้อยหรือฉากที่ต้องลดแสงลงเพื่อการถ่ายทำที่สวยงาม
3. ขั้นตอนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ มั่นใจได้ ตั้งแต่การถ่ายทำ จนขั้นตอนโพสต์โปรดักชัน
- เซนเซอร์รับภาพ CMOS ของกล้องสามารถบันทึกภาพจากแสงที่เข้าสู่ “ดวงตา” ของเลนส์ทั้ง 2 ข้างได้พร้อมๆ กัน ซึ่งช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการจัดตำแหน่งและซิงค์กล้องก่อนถ่ายทำหรือต่อภาพเข้าด้วยกันตอนโพสต์โปรดักชันตามวิธีการแบบดั้งเดิม
- การควบคุมการถ่ายภาพจากระยะไกล (Remote Shooting) ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการถ่ายวิดีโอ VR ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ EOS Utility ซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับปรับการตั้งค่ากล้องและถ่ายโอนรูปภาพผ่านคอมพิวเตอร์ หรือเลือกใช้แอปพลิเคชัน Camera Connect เพื่อช่วยในการตรวจสอบภาพและเปลี่ยนการตั้งค่ากล้องผ่านสมาร์ทโฟน