ระบบ ColorOS 12
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2021 OPPO เปิดตัวระบบ ColorOS 12 เวอร์ชั่น Global ซึ่งแน่นอนว่าเราจะได้เห็นทั้งดีไซน์ UI แบบใหม่, ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงระบบความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย
รูปภาพจาก OPPO.com
ดีไซน์ UI แบบใหม่
ColorOS 12 เปลี่ยนมาใช้ UI ดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า Inclusive Design เพิ่มพื้นที่ของหน้าจอให้มากขึ้นด้วยการลดความหนาแน่นของข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอให้น้อยลงในขณะที่ตัวอักษรมีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่งสีต่าง ๆ ให้แต่ละเมนูมีความโดดเด่น แยกออกจากกันได้ง่ายกว่าเดิม โดยเมนูหลักจะใช้สีที่สว่างกว่าเมนูที่สำคัญรองลงมา ส่วนไอค่อนแอปต่าง ๆ ก็มีการปรับปรุงหน้าตาใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น
รูปภาพจาก OPPO.com
OMOJI
ฟีเจอร์ใหม่สำหรับใช้บ่งบอกตัวตนสำหรับเจ้าของมือถือ ด้วยการสร้าง OMOJI ซึ่งเป็นอีโมจิรูปแบบ 3D ที่ผู้ใช้สามารถสร้างอีโมจิหน้าตัวเองได้ แถมยังมีระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวจากใบหน้าของผู้ใช้ที่จะทำให้ OMOJI ขยับหน้าตามได้แบบ real-time โดยเมื่อผู้ใช้สร้างเจ้า OMOJI ที่ต้องการได้แล้ว ยังเอาไปทำเป็นรูปโปรไฟล์ของตัวเอง หรือจะเอาไปวางไว้ที่หน้าจอ Always-On ก็ได้ด้วยนะ
รูปภาพจาก OPPO.com
ALWAYS-ON DISPLAY 2.0 ปรับแต่งได้มากขึ้น
ฟีเจอร์ Always-On Display มีมาให้ใช้ตั้งแต่ ColorOS 11 แล้ว (เฉพาะรุ่นที่มีหน้าจอ AMOLED) แต่สำหรับเวอร์ชั่นใหม่นี้ ได้เพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ให้มากกว่าเดิม เพราะผู้ใช้จะสามารถตกแต่ง AOD ได้ในแบบที่ตัวเองต้องการ หรือจะเอา OMOJI ของตัวเองมาวางโชว์ไว้ก็ได้อีก
รูปภาพจาก droidsans.com
THEME ที่เปลี่ยนไปตาม WALLPAPER
หมดปัญหาภาพวอลเปเปอร์ที่ใช้สีไปคนละทิศละทางกับ Theme เครื่อง เพราะคราวนี้มีฟีเจอร์ Wallpaper color picking ใส่เข้ามาด้วย โดยเมื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวแล้ว เวลาที่เราเปลี่ยน Wallpaper หน้าจอเมื่อไหร่ Theme เครื่องก็จะเปลี่ยนเป็นสีที่เข้ากันให้แบบอัตโนมัติ
PC CONNECT
ด้วยฟีเจอร์ PC Connect จะทำให้มือถือระบบ ColorOS 12 สามารถเชื่อมต่อกับ PC ระบบ Windows 10 หรือใหม่กว่า ทำให้การส่งไฟล์ระหว่างมือถือและ PC มีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยมีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลสูงถึง 45MB/s นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมภาพจากหน้าจอมือถือขึ้นไปที่หน้าจอ PC และใช้เมาส์ + คีย์บอร์ดบังคับมือถือได้เลย หรือจะกลับกันด้วยการควบคุม PC ผ่านหน้าจอมือถือก็ได้นะ
รูปภาพจาก OPPO.com
Battery Dashboard
ColorOS 12 มากับฟีเจอร์ที่จะช่วยให้เราเช็คการใช้งานต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นว่ามีการกินแบตเตอรี่ผิดปกติตรงไหนบ้างรึเปล่า ด้วย Battery Dashboard ที่จะโชว์ข้อมูลการใช้งานต่าง ๆ ของมือถือในรูปแบบแผนภูมิ ว่ามีการใช้พลังงานในช่วงเวลาไหนเท่าไหร่บ้าง และแบตที่เหลือจะใช้ได้นานอีกแค่ไหน
หากแบตเตอรี่ใกล้จะหมดก็สามารถเปิดใช้โหมดประหยัดพลังงานได้ง่าย ๆ ในเมนู Settings > Battery และเปิดโหมด Save power ซึ่งระบบจะจัดการปิดบางแอปที่วิ่งอยู่เบื้องหลัง, เปิดฟีเจอร์ปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ, ปิดโหมด High Performance ฯลฯ และยังมีการแจ้งเตือนอีกด้วยหากพบว่ามีแอปที่กินพลังงานผิดปกติ
รูปภาพจาก OPPO.com
การใช้งานพร้อมกันได้ 2 แอป ด้วย FLEXDROP
ใช้งาน 2 แอปไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย FlexDrop ที่จะหดแอปที่เราต้องการให้เป็นหน้าต่างเล็ก ๆ ลอยอยู่บนหน้าจอให้เราสามารถลากไปไว้ตรงไหนก็ได้ ในขณะที่บนหน้าจอหลักก็ยังเปิดอีกแอปเอาไว้อยู่
แปลภาษาบนหน้าจอด้วย GOOGLE LENS แค่ใช้ 3 นิ้ว
เวลาเปิดดูหน้าเว็บหรือรูปภาพที่มีภาษาต่างประเทศซึ่งเราไม่เข้าใจ ก็แค่เอานิ้ว 3 นิ้ว แตะไว้ที่หน้าจอ ระบบก็จะให้ตัวเลือกในการเปิด Google Lens ขึ้นมาให้เพื่อช่วยแปลภาษาได้ทันที
เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ใน ColorOS 12 ผู้ใช้จะสามารถตรวจสอบได้จาก Privacy Dashboard ว่ามีแอปไหนที่ขออนุญาตเข้าถึงการใช้งานอะไรบ้าง และหากว่าเจอแอปที่เราเผลอให้เข้าถึงส่วนที่ละเอียดอ่อนเกินไป ก็สามารถกดยกเลิกได้ทันที และหากว่ามีแอปไหนที่กำลังใช้งานกล้อง / ไมโครโฟนอยู่ ก็จะมีไอค่อนแจ้งเตือนบนแถบ Notification ให้ผู้ใช้ได้เห็นกันง่าย ๆ
รูปภาพจาก OPPO.com
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกปิดการเข้าถึงกล้อง + ไมโครโฟนจากแอปทั้งหมดได้ในครั้งเดียว โดยกดปุ่มในแถบ Quick Settings ส่วนแอปไหนที่จำเป็นต้องเข้าถึงตำแหน่งของเครื่อง เราก็สามารถเลือกเป็นตำแหน่งที่อยู่ใกล้เคียงได้ ไม่จำเป็นต้องจี้จุดเป็นตำแหน่งที่เราอยู่แบบเป๊ะ ๆ
สำหรับมือถือบางรุ่นจะสามารถใช้ฟีเจอร์ Anti-peeping Notification ได้ด้วย
โดยฟีเจอร์ดังกล่าวจะปิดข้อมูลบางส่วนของการแจ้งเตือน (Notification) เมื่อระบบตรวจจับได้ว่ามีคนกำลังแอบมองหน้าจอมือถืออยู่
รูปภาพจาก OPPO.com
เพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของมือถือ
ColorOS 12 จะใช้ระบบ AI ในการตรวจจับการใช้งานมือถือ ว่าตอนไหนควรจะเร่งประสิทธิภาพเครื่อง และตอนไหนที่ควรลดประสิทธิภาพลง ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว ยังช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่ได้อีกด้วย
และยังมากับฟีเจอร์ GPA 2.0 ที่จะใช้ระบบ AI ในการปรับแต่งประสิทธิภาพเครื่องระหว่างเล่นเกมให้เหมาะสมกับอุณหภูมิของเครื่อง ทำให้เฟรมเรตมีความเสถียรขึ้น แต่ไม่ทำให้เกมกระตุกจนเสียอารมณ์
รูปภาพจาก OPPO.com
กำหนดการอัปเดต COLOROS 12
สำหรับการอัปเดต ColorOS 12 ให้กับมือถือ OPPO คาดว่าทุกรุ่นที่รองรับจะได้ใช้ ColorOS 12 กันหมดภายในปี 2022 โดยรายชื่อรุ่นต่าง ๆ ที่จะได้รับการอัปเดตตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2022 ก็มีตามนี้
รูปภาพจาก OPPO.com
ขอบคุณข้อมูลจาก
-
oppo.com
-
droidsans.com