Smart Plug
Smart Plug หรือที่เรียกว่า ปลั๊กไฟอัจฉริยะ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะ หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อว่า SMART HOME นั่นเอง ซึ่งจะช่วยให้คุณนะสามารถที่จะทำการสั่งเปิดปิดการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆได้ผ่านทางการใช้คำสั่งเสียงหรือการสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนโดยจะใช้งานเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆที่เสียบอยู่บน เจ้าตัว Smart Plug โดยในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Smart Plug หรือ ปลั๊กไฟอัจฉริยะ ว่ามันคืออะไรและมีประโยชน์อย่างไรในชีวิตประจำวันของเราในปัจจุบันนี้ครับ
Smart Plug คืออะไร ?
Smart Plug คือ อุปกรณ์นี้ปลั๊กไฟที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่นที่สามารถที่จะทำการสั่งงานเปิด-ปิด ผ่านเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มาต่อพ่วงอื่นๆ ได้นั้นเอง ซึ่งการใช้งาน Smart Plug นั้นจะเหมือนกับการใช้งานปลั๊กไฟทั่ว ๆ ไปแต่ที่แตกต่างกันก็คือคุณสามารถที่จะทำการสั่งงานพวกมันผ่านแอพพลิเคชั่น หรือผ่านทางเสียงโดยผู้ช่วยอัจฉริยะโดยการใช้งาน Google home Assistant โดยคุณสามารถที่จะทำการสั่งงานรับทำการเปิดหรือปิดได้จากระยะไกลผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั่นเอง
ประโยชน์ของ Smart Plug
1.ควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ
- ตั้งเวลาสำหรับต้มน้ำชงกาแฟ เพื่อให้คุณตื่นมาแล้วไม่ต้องเสียเวลารอนานสามารถดื่มกาแฟยามเช้าได้อย่างทันใจ ช่วยประหยัดเวลาได้มากขึ้น
- แจ้งเตือนการทำงานของอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกับปลั๊ก เช่น เมื่อซักผ้าเสร็จตัวปลั๊กจะจับค่ากระแสไฟฟ้าและแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ เพื่อให้ทำการตัดการทำงานและกระแสไฟที่จะเข้าสู่ตัวเครื่อง
- ตัดการทำงานของทีวีเพื่อควบคุมเวลาการใช้งานของบุตรหลานให้เหมาะสม ไม่ให้ดูการ์ตูนหรือเล่นเกมนานเกินไป ในกรณีที่ไม่ได้อย่าห้องเดียวกัน
2.ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ
- เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างหากเสียบปลั๊กทิ้งไว้และมีกระแสไฟเข้าตลอดอาจทำให้เสื่อมเร็วกว่าปกติ เช่น แบตเตอรี่มือถือเป็นต้น ซึ่งปลั๊กไฟอัจฉริยะทำให้เราสามารถควบคุมเวลาการชาร์จได้ตามความเหมาะสม
3.ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า
- ประโยชน์ของ Smart Plug ข้อนี้น่าจะถูกใจใครหลายคน เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่างแม้เราจะไม่ได้ใช้งานแต่หากเสียบปลั๊กค้างไว้ก็ยังคงมีกระแสไฟเข้าสู่ตัวเครื่องทำให้เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เช่น ไมโครเวฟ , ทีวี, เครื่องพิมพ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ควบคุมเวลาเปิด-ปิด ไฟตามจุดต่างๆ ของบ้านหรือสำนักงานได้ด้วย
4.ช่วยเพิ่มความปลอดภัย
- นอกจากเรื่องของความสะดวกและประหยัดแล้ว ปลั๊กไฟอัจฉริยะ ยังช่วยในเรื่องของความปลอดภัยได้อีกทางหนึ่งด้วย ยกตัวอย่างเช่นในช่วงเวลาที่เร่งรีบคุณอาจจะลืมเสียบปลั๊กเครื่องต้มน้ำร้อน หรือเตารีดทิ้งเอาไว้ การมี Smart Plug ในบ้านจะช่วยให้คุณสามารถสั่งตัดการทำงานได้แม้จะออกจากบ้านไปแล้วก็ตาม โดยสามารถดูการทำงานของปลั๊กได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย
สิ่งที่ควรจะพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อ Smart Plug มาใช้งาน
1.มาตรฐานการเชื่อมต่อ
Smart Plug ที่คุณจะทำการเลือกซื้อนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรองรับการใช้งานกับเครือข่ายที่มีอยู่ในปัจจุบันของคุณโดยจะเชื่อมต่อเครือข่ายเข้ากับระบบเครือข่ายไร้สายหรือ WiFi ที่บ้านของคุณซึ่งคุณจะต้องแน่ใจว่าอุปกรณ์เครือข่ายของคุณนั้นสามารถที่จะปล่อยสัญญาณที่ตรงกันหรือว่าใช้งานร่วมกันกับ Smart ซักได้อย่างไม่มีปัญหาโดยมาตรฐานในการเชื่อมต่อกับ WiFi นั้นจะมีหลายมาตรฐานได้แก่ WiFi a/b/g/n ซึ่งแต่ละมาตรฐานนั้นก็จะไม่สามารถที่จะใช้งานร่วมกันได้ในบางครั้งดังนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องพิจารณาในชุดนี้ให้ดีก่อน
2.ความเข้ากันได้กับระบบ Smart Home ของคุณ
ระบบสมาร์ทโฮมของคุณนั้นเป็นสิ่งแรกที่คุณควรจะพิจารณาก่อนว่าอุปกรณ์ที่คุณกำลังจะซื้อนั้นสามารถที่จะใช้ร่วมกับระบบสมาร์ทโฮมเดิมที่คุณมีอยู่แล้วได้อย่างไม่มีปัญหาหรือไม่โดยระบบสมาร์ทโฮมในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นระบบของ Apple Home kit หรือ Google Assistant รวมถึงลำโพงของ Amazon Echo ก็ตาม ซึ่งคุณควรจะพิจารณาให้ดีก่อนโดยดูรายละเอียดได้จากข้อมูลที่ทางผู้ผลิตทำการระบุไว้ที่ข้างกล่องว่าสามารถที่จะทำงานร่วมกับระบบไหนได้บ้างเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะเลือกซื้อ Smart Plug ที่เข้ากันได้กับระบบของคุณ
3. กำลังไฟที่สามารถรับได้
Smart Plug นั้นจะเหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่กินกระแสไฟฟ้าต่ำอย่างเช่นพวกหลอดไฟ LED หรือไฟบ้านธรรมดาที่มีกำลังวัตต์ของอุปกรณ์ไม่เกิน 200 ถึง 300 วัตต์ซึ่งตัว Smart รักนั้นสามารถที่จะทำการเปิดปิดอุปกรณ์ดังกล่าวได้อย่างไม่มีปัญหาในการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีกำลังวัตต์มากนั้นอาจจะทำให้อุปกรณ์ Smart Plug นั้นเสียหายได้อย่างรวดเร็วดังนั้นคุณควรที่จะพิจารณากำลังไฟสูงสุดที่ตัว Smart รับสามารถที่จะรับได้ก่อนที่จะเลือกซื้อมาใช้งานกับอุปกรณ์ของคุณ
4.ความสามารถในการตรวจสอบการบริโภคพลังงาน
Smart Plug บางรุ่นนั้นจะสามารถที่จะทำการตรวจสอบปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ใช้งานไปของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต่ออยู่กับ Smart Plus ซึ่งและช่วยให้คุณสามารถที่จะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการคำนวณอัตราค่ากระแสไฟฟ้าของอุปกรณ์เหล่านั้นได้จะทำให้คุณทราบถึงประสิทธิภาพและความสิ้นเปลืองของอุปกรณ์ดังกล่าวได้อย่างง่ายดายและสามารถที่จะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการคำนวณอัตราการบริโภคพระแสงไฟฟ้าของอุปกรณ์ได้
5.ความปลอดภัยของระบบ Smart Plug
ระบบ Smart Plug นั้นจำเป็นที่จะต้องมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยต่างๆเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นสถานะเมื่อเกิดไฟตกหรือไฟดับฟิวส์ที่ใช้ในการตัดไฟในกรณีที่มีกระแสไฟฟ้าลัดวงจรหรือมีกระแสไฟฟ้าเกินรวมถึงตัวรีเลย์ที่สามารถใช้ในการตัดกระแสไฟฟ้าได้อย่างง่ายดายรวมถึงการเข้ารหัสในการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ Smart Plug กับระบบเครือข่ายซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานปลอดภัยจากการแฮกของระบบซึ่งอาจจะมีเกิดขึ้นได้โดยที่ผู้ใช้งานไม่รู้ตัว
6.ระบบการควบคุมแบบ Manual
Smart Plug นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมาพร้อมกับ ระบบควบคุมแบบควบคุมเองที่จะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการควบคุมเปิดหรือปิดอุปกรณ์ Smart รักได้โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องต่อหรือสั่งงานผ่านอุปกรณ์อื่นๆได้ในกรณีที่คุณจำเป็นจะต้องควบคุมเองซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการเปิดปิดได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
7.รองรับระบบตั้งเวลา
ข้อดีของ Smart รักนั้นก็คือคุณสามารถที่จะทำการตั้งเวลาให้อุปกรณ์ ที่เชื่อมต่ออยู่กับ Smart Plug นั้นสามารถที่จะทำงานได้ตามตารางเวลาที่คุณได้กำหนดเพิ่มแสงช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการควบคุมการเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆตามตารางเวลาเพื่อความสะดวกในการใช้งานของคุณได้อย่างง่ายดายโดยสมัครรักนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรองรับการตั้งเวลาอย่างน้อย 6 ช่วงเวลาขึ้นไป
สรุป
Smart Plug เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อที่สามารถเสียบแล้วใช้ได้เลย โดยไม่ต้องดัดแปลงหรือแก้ไขระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เพียงแค่ติดตั้ง และโหลดแอพพลิเคชัน เพื่อควบคุมการทำงาน ไม่ว่าจะอยู่สถานที่ใด ก็สามารถส่งคำสั่งผ่านสัญญาณ WI-FI เปิด/ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น